วิธีการป้องกันลูกน้อยจาก COVID 19
การระบาดของเชื้อไวรัวโควิด 19 สร้างความเสียหาย และผลกระทบเป็นวงกว้าง ทั้งในเรื่องของสุขภาพ เศรษฐกิจ และทางด้านจิตใจ โดยเฉพาะคุณพ่อ คุณแม่ที่มีลูกน้อย เนื่องจากลูกน้อยยังไม่สามารถดูแล และป้องกันตัวเองได้ ทำให้คุณพ่อคุณแม่เป็นกังวลว่าลูกน้อยอาจจะติดเชื้อไวรัสโควิด 19 โดยเฉพาะการที่ลูกน้อยได้รับเชื้อโควิดมาจากผู้ปกครอง และผู้ใกล้ชิด นอกจากในเรื่องของการป้องกันแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญเลยคือการสอนให้ลูกน้อบรู้จักไวรัสโควิดและการป้องกันตัวเองเบื้องต้นที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง
1. ลดการสัมผัสและการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส และปลูกฝังให้ลูกน้อย "ล้างมือ" อย่างสม่ำเสมอ โดยวิธีการล้างมือที่ถูกต้องคือล้างด้วยสบู่และน้ำอย่างน้อย 20 วินาที และล้างมือให้ครบ 7 ขั้นตอน ดังต่อไปนี้
- ฝ่ามือถูฝ่ามือ ล้างมือด้วยน้ำสะอาดและใช้สบู่ถูจนขึ้นฟอง หลังจากนั้นประกบฝ่ามือทั้งสองข้างเข้าหากันและออกแรงถูให้ทั่ว
- ถูหลังมือ และซอกนิ้ว เพื่อฆ่าเชื้อโรคที่สะสมอยู่บริเวณซอกนิ้ว และด้านหลัง โดยใช้ฝ่ามือถูกบริเวณหลังมือ และซอกนิ้วสลับกันไปมาทั้งสองข้าง
- ถูฝ่ามือและซอกนิ้ว ลักษณะการถูกเหมือนกันกับการถูกหลังมือ เพียงแต่เปลี่ยนเป็นการใช้ฝ่ามือมาประกับกัน และสอดแทรกนิ้วมือของทั้งสองข้างเข้าหากันและออกแรงถูให้สะอาด
- หลังมือถูฝ่ามือ ใช้นิ้วมือทั้งสองข้างงอเกี่ยวกัน และถูวนไปมาจนกว่าจะสะอาด
- ถูกนิ้วและโคนนิ้วหัวแม่มือ กางนิ้วหัวแม่มือแยกออกมา ใช้ฝ่ามืออีกข้างกำรอบนิ้วหัวแม่มือ และหมุนไปรอบ ๆ สลับกัน
- ถูปลายนิ้วบนฝ่ามือ แบมือและใช้ปลายนิ้วมืออีกข้างถูเป็นวงกลม และสลับชข้างกัน
- ถูรอบข้อมือ ใช้มืออีกข้างกำข้อมือและออกแรงถูจนกว่าจะสะอาด และสลับข้างกัน
2. พกเจลแอลกอฮอล์ติดตัวระหว่างออกนอกบ้าน และแอลกอฮอล์ต้องมีมากกว่า 60 % หากเกรงว่าลูกน้อยจะเผลอนำแอลกอฮอล์เข้าปาก เข้าตาจนอันตราย คุณพ่อ คุณแม่ควรเลือกซื้อเป็นแอลกอฮอล์ทำความสะอาดสำหรับเด็กที่ปลอดภัยต่อผิวของลูกน้อย และไม่เป็นอันตรายนอกจากนี้ควรให้ลูกน้อยพกแอลกอฮฮล์ ส่วนตัวเมื่อต้องออกไปข้างนอก และฉีดทำความสะอาดทุกครั้งเมื่อจับสิ่งของ
3. หลีกเลี่ยงการไปในสถานที่คนเยอะๆ หรือหนาแน่นและเป็นพื้นที่ที่มีอากาศไม่ถ่ายเท โดยเฉพาะปัจจุบันที่มีการแพร่ระบายโควิด 19 สายพันธุ์โอไมครอนที่ สามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว ทำให้การไปในสถานที่คนเยอะ ๆ เสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิดฯ และควรเว้นระยะห่างระหว่างกันเมื่อมีเหตุจำเป็นต้องออกไปข้างนอก ระยะห่างที่สมควรเว้นคือ 1 – 2 เมตรเป็นอย่างน้อย
4. เปลี่ยนมาทำกิจกรรมภายในบ้านระหว่างครอบครัว นอกจากช่วยลดความเสี่ยงจากเชื้อไวรัสแล้ว ยังสามารถช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ภายในครอบครัว ในช่วงก่อนหน้าการแพร่ระบาดของโควิดฯ หลาย ๆ ครอบครัวมักจะพาลูกน้อยออกไปเที่ยวยังสถานที่ต่าง ๆ เพื่อเป็นการเรียนรู้ และเสริมสร้างประสบการณ์นอกห้องเรียน แต่เมื่อมีการแพร่ระบาดของโควิดฯ ต้องมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่ โดยเฉพาะการอยู่บ้านมากยิ่งขึ้นเพื่อลดการออกไปเที่ยวนอกบ้าน และหากิจกรรมให้ลูกน้อยทำร่วมกับครอบครัว เช่น การทำอาหาร การเล่นเกมเสริมทักษะ หรือการชวนลูกน้อยประดิษฐ์สิ่งของแบบ D.I.Y
5.หากลูกน้อยที่มีอายุ 2 ขวบขึ้นไป ควรสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกนอกบ้าน โดยการสวมให้คลุมบริเวณปากและจมูก รวมถึงการเว้นระยะห่างระหว่างสังคมเพื่อป้องกันเชื้อไวรัสที่มาจากพาหะสอนให้รู้น้อยไม่สัมผัสบริเวณหน้ากากอนามัยซึ่งเป็นแหล่งรวมของเชื้อโรค
ในกรณีที่ลูกน้อยอายุ 1 เดือนถึง 1 ขวบ หากใส่หน้ากากอนามัยควรได้รับการดูแลจากคุณพ่อ คุณแม่อย่างดี เนื่องจากลูกน้อยในวัยนี้อาจมีปัญหาในเรื่องของการหายใจลำบาก และยังไม่สามารถสื่อสารได้หากมีภาวะการหายใจลำบาก
- คุณพ่อคุณแม่คววรทำความสะอาดอุปกรณ์และเครื่องใช้ต่างๆ ภายในบ้านอย่างสม่ำเสมอโดยเฉพาะจุดเสี่ยงอย่าง ลูกบิดประตู โต๊ะ รีโมต ราวจับ และห้องน้ำ โดยเฉพาะบริเวณลูกบิดประตูที่เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค และไม่สามารถทราบได้ว่ามีใครมาสัมผัสแล้วบ้าง ทางที่ดีคือควรเช็ดและทำความสะอาดอยู่สม่ำเสมอ
ดูแลรักษาสุขภาพร่างกาย และสุขภาพใจด้วยนะคะ เราต้องผ่านวิกฤตการแพร่ระบายของโควิด 19 นี้ไปให้ได้ และระมัดระวังอยู่เสมอ นอกจากนี้ต้องเตรียมพร้อมร่างกายให้แข็งแรง พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างเสมอ ทานอาหารให้ครบห้าหมู่ และมีสติอยู่กับตัวเอง หากพบว่าตัวเองมีอาการที่เข้าข่าย ควรรียทำการตรวจหาเชื้อและทำการรักษาทันทีค่ะ
